Extra Settings


หน้าแรก
หน้าแรก

แก้ปัญหาเกี่ยวกับการใช้โมเด็มรุ่นนี้
แก้ปัญหา

ดาวน์โหลดคู่มือการใช้โมเด็ม
คู่มือ

เคล็ดลับ
เคล็ดลับ

ถาม-ตอบ
ถาม-ตอบ

วิเคราะห์
วิเคราะห์

Web Board
Web Board

Upgrade
Upgrade

Drivers
Drivers

Extra Settings
Extra Settings

Links
Links

Updates
What's new

ค่า Extra Settings ในหน้านี้ สำหรับโมเด็มรุ่นนี้เท่านั้น อาจใช้ไม่ได้กับโมเด็มยี่ห้ออื่น หรือรุ่นอื่นแม้จะเป็นของ 3Com เหมือนกัน หากคุณไม่ได้ใช้โมเด็มรุ่นนี้ ลองศึกษาคู่มือซึ่งน่าจะอยู่ในแผ่นซีดีที่มากับโมเด็มของคุณ

Extra Settings คือ อะไร

หากคุณ install โมเด็ม และไดรฟเวอร์ราบรื่นดีแล้ว โดยปกติคุณไม่จำเป็นต้องใส่ initialization string หรือ extra settings ในการต่อโดยใช้ Dial-up Networking (DUN) เพราะไดรฟเวอร์ของโมเด็ม จริงๆ แล้วก็คือ initialization string ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโมเด็มรุ่นนั้นๆ และน่าจะช่วยให้คุณต่อได้ความเร็วดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากที่คุณติดตั้งโมเด็ม ค่านี้จะอยู่ใน Registry ของวินโดวส์ และทุกครั้งที่คุณใช้ DUN มันจะถูกนำมาใช้โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรทั้งสิ้น หากคุณต้องการดูค่าดังกล่าว ลองสั่งให้โมเด็มบันทึก log การต่อ (ดู การสั่งให้โมเด็มบันทึกคำสั่งไว้ใน .log file ขณะที่ connect ) ในหัวข้อ วิเคราะห์ แล้วเปิด log ดูภายหลังการต่อ

ทำไมต้องใส่ extra settings

อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการเปลี่ยนแปลงค่าบางอย่างให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น หรือแก้ป้ญหา วินโดวส์มีวิธีที่จะให้เราใส่ค่าเหล่านี้เพิ่มเติม โดยมันจะ override หรือทับค่าเดิม (ในกรณีที่ค่าซ้ำกัน) ค่าที่เพิ่มเข้าไปใหม่นี้เรียกว่า extra settings และสามารถพิมพ์เพิ่มเติมเข้าไปได้โดยคลิก ให้ไปที่ Start Menu/Settings/Control Panel แล้วเลือก Modem/General/Properties ต่อจากนั้น เลือก Connections/Advanced พิมพ์คำสั่งที่ต้องการลงไปในช่อง Extra Settings แล้วคลิก OK ดังภาพ

สำหรับโมเด็มรุ่นนี้ มีปัญหาดังที่ทราบกันอยู่เรื่อง redial ได้ไม่เกิน 3 ครั้ง เราจึงจำเป็นต้องใส่ extra settings เพิ่มเข้าไปเพื่อแก้ปัญหานี้ (ดู การแก้ปัญหา )

นอกจากนี้ หากคุณไม่พอใจค่าที่โมเด็มใช้อยู่ คุณยังอาจเปลี่ยนค่าบางอย่างได้ โดยเพิ่มเข้าไปใน extra settings จะใช้ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ได้ แต่ควรจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง หากมีมากกว่า 1 ค่า สามารถพิมพ์ต่อกันไปได้โดยไม่ต้องเว้นวรรค และจะเรียงลำดับอย่างไรก็ได้ เช่น

S40=7L3M2S10=7

ตัวอย่างข้างบนนี้ ประกอบด้วย 4 คำสั่งด้วยกัน คือ

extra settings คำสั่ง ค่า default* คำสั่ง
S40=7 แก้ปัญหา redial ไม่ได้เกิน 3 ครั้ง N/A N/A
L3 เพิ่มความดังของเสียงในขณะต่อโทรศัพท์ L2 ความดังปานกลาง
M2 ลำโพงดังตลอดการ connect M1 ลำโพงดังจนกว่าจะ connect
S10=7 เพิ่มความไวต่อเสียงรบกวนในสาย ทำให้สายหลุดง่ายขึ้น (กรณีที่มีสายเรียกซ้อนแล้วโมเด็มไม่ยอมตัด) S10=14 ค่ามาตรฐาน สายหลุดยากกว่า

*หมายเหตุ ค่า default หมายถึงค่ามาตรฐานที่โมเด็มใช้เมื่อเราไม่ได้ใส่ extra settings อะไรเลย

คำสั่งที่ใช้ได้ใน extra settings

มีคำสั่งมากมายที่คุณสามารถใช้ได้ใน extra settings ศึกษาได้จาก คู่มืออ้างอิงทางเทคนิค ในที่นี้จะขอยกมาเฉพาะค่าที่น่าสนใจ และสามารถใช้ได้โดยไม่น่าจะทำให้มีปัญหาดังนี้ (แทนค่า n ด้วยตัวเลขในช่อง "ตัวเลือก" เช่น L2, M3, S10=20 ฯลฯ) หากคุณไม่ได้ใช้โมเด็มรุ่นนี้ ลองศึกษาจากคู่มือที่มากับโมเด็มของคุณ (ปกติจะอยู่ในแผ่นซีดี) หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ ลองดูที่เวบไซต์ของผู้ผลิตโมเด็มของคุณ โดยค้นรายชื่อได้ที่ Modemhelp.Org

คำสั่ง หน้าที่ ตัวเลือก (n)* หมายเหตุ
Mn การทำงานของลำโพงขณะ connect 0 (ปิด)
1 (เปิดตั้งแต่เริ่มกดหมายเลขจนพบสื่อ)
2 (เปิดตลอดการ connect)
3 (เปิดหลังจากเลขสุดท้ายของเบอร์ถูกกดจนพบสื่อ)
Ln ความดังของลำโพง 0 (ค่อย)
1 (ค่อย)
2 (ดังปานกลาง)
3 (ดังมาก)
S6=n จำนวนวินาทีจะที่จะให้โมเด็มรอก่อนเริ่มกดหมายเลขเพื่อต่อ หรือรอสัญญาณพร้อมต่อ (dial tone) 0-255
2
ปรับค่าให้สูงขึ้นถ้าสายของคุณต้องใช้เวลานานกว่า 2 วินาทีก่อนจะให้สัญญาณพร้อมต่อ
S10=n จำนวนเวลาที่โมเด็มรอหลังจากไม่พบสื่อก่อนจะวางหู (ตัดสาย) หน่วยเป็น 1/10 วินาที 0-255
14
สามารถปรับลดลงมาเพื่อให้สายตัดเวลามีเสียงเรียกซ้อนเข้า ค่า 255 หมายถึงไม่ตัดเลยแม้จะไม่พบสื่อ และจะตัดต่อเมื่อคุณสั่ง disconnect ผลข้างเคียงของการตั้งค่านี้ต่ำเกินไป คือ สายอาจจะหลุดง่ายขึ้น
S11=n จำนวนมิลลิวินาที (1/1,000 วินาที) ที่จะให้โมเด็มเว้นช่วงระหว่างกดตัวเลขแต่ละตัวในเบอร์โทรศัพท์ในสายแบบกดปุ่ม (touch tone) 0-255
70
S32=n เลือกโมดูเลชั่น* 34 (disable x2)
66 (disable v.90)
98 (disableทั้ง x2 และ v.90)
(ค่า default คือ enable ทั้ง x2 และ V.90)
สำหรับใช้กับ ISP ที่ไม่สนับสนุน modulation นั้นๆ หรือต่อเข้าเบอร์ที่ไม่สนับสนุน

* โมดูเลชั่น (Modulation) คือ รูปแบบที่โมเด็มใช้ในการแปลงสัญญาณดิจิตัลเป็นอนาล็อก และกลับกัน เป็นที่มาของคำว่า Modem (MOdulator/DEModulator) มาตรฐานปัจจุบันที่ใช้กันแพร่หลายมีดังนี้

V.90
มาตรฐานสากลสำหรับโมดูเลชั่น 56K
V.34
มาตรฐานสากลสำหรับโมดูเลชั่น 28800 และ 33600 bps
V.32bis
มาตรฐานสากลสำหรับโมดูเลชั่น 14400 bps
V.FC
โปรโตคอลลิขสิทธิ์เฉพาะของ Rockwell สำหรับความเร็ว 28800
V.flex
โปรโตคอลลิขสิทธิ์เฉพาะของ Lucent สำหรับโมดูเลชั่น 56000 bps ต่อมาได้รวมกับโปรโตคอล K56Plus ของ Rockwell โปรโตคอลใหม่นี้ เรียกว่า K56Flex
x2
โปรโตคอลลิขสิทธิ์เฉพาะของ U.S. Robotics สำหรับโมดูเลชั่น 56K
*หมายเหตุ
1. ค่า default คือ ตัวหนา
2. คำสั่งเหล่านี้สำหรับโมเด็มรุ่นนี้เท่านั้น อาจใช้ไม่ได้ผลถ้านำไปใช้กับโมเด็มรุ่นอื่นๆ แม้จะเป็นของ U.S. Robotics เหมือนกันก็ตาม
3. นิยามโมดูเลชั่นต่างๆ เรียบเรียงจากข้อมูลที่ Modem 56K Central

การจำกัดความเร็วของโมเด็ม

เราสามารถใช้ Extra Settings เพื่อจำกัดความเร็วของโมเด็มให้อยู่ ณ ระดับความเร็วหนึ่ง หรือในย่านความเร็วบางระดับได้ สาเหตุที่ต้องมีการจำกัดความเร็วนั้น ส่วนใหญ่มีอยู่ 2 ประการ ดังนี้

  • การต่ออินเตอร์เน็ตของคุณแต่ละครั้งมีความเร็วต่างกัน และคุณต้องการให้ต่อเฉพาะในระดับความเร็วที่สูงเท่านั้น
  • คุณพบว่าโมเด็มไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ เมื่อต่อ ณ ระดับความเร็วสูงๆ เช่น สายอาจจะหลุด หรือมี error จำนวนมาก (ดู วิเคราะห์ ) จึงต้องการจะลดความเร็วลงมา หรือจำกัด "เพดาน" ความเร็วในการต่อ

ข้อควรระวัง ในการใช้คำสั่งต่อไปนี้ ถ้าโมเด็มไม่สามารถต่อกับปลายทางได้ ณ ความเร็ว หรือในย่านความเร็วที่คุณกำหนด มันจะตัดสาย แล้วพยายาม redial ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ความเร็วตามที่กำหนด จึงค่อนข้างจะเปลืองค่าโทรศัพท์สักหน่อย

คำสั่งที่ใช้ในการจำกัดความเร็วของโมเด็มรุ่นนี้ คือ &Un และ &Nn โดย n คือ ตัวเลขตั้งแต่ 0-39 ค่า &U เป็นการจำกัดความเร็วต่ำสุด และค่า &N เป็นการจำกัดความเร็วสูงสุด

แทนค่า n ด้วยตัวเลขหน้าเครื่องหมาย = ในตารางต่อไปนี้ โดยเลือกระดับความเร็วตามที่ต้องการ

1=300 bps 2=1200 bps 3=2400 bps 4=4800 bps
5=7200 bps 6=9600 bps 7=12000 bps 8=14400 bps
9=16800 bps 10=19200 bps 11=21600 bps 12=24000 bps
13=26400 bps 14=28800 bps 15=31200 bps 16=33600 bps
17=28000 bps 18=29333 bps 19=30666 bps 20=32000 bps
21=33333 bps 22=34666 bps 23=36000 bps 24=37333 bps
25=38666 bps 26=40000 bps 27=41333 bps 28=42666 bps
29=44000 bps 30=45333 bps 31=46666 bps 32=48000 bps
33=49333 bps 34=50666 bps 35=52000 bps 36=53333 bps
37=54666 bps 38=56000 bps 39=57333 bps 0=ปลายทางกำหนด*
หมายเหตุ * ค่า default

ตัวอย่าง

  1. &U28&N39 บังคับให้โมเด็มต่อในย่านความเร็วต่ำสุด 42666 bps (bits per second) และสูงสุด 57333 bps หรืออีกนัยหนึ่งต่อในย่านความเร็ว 42666-57333 bps ถ้าไม่ได้ความเร็วในย่านนี้หมุนใหม่
  2. &U22 บังคับให้โมเด็มต่อ ณ ความเร็วต่ำสุดที่ 34666 bps แต่ไม่จำกัดความเร็วสูงสุด ถ้าต่อแล้วได้ความเร็วต่ำกว่านี้หมุนใหม่
  3. &N35 บังคับให้โมเด็มต่อ ณ ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 52000 bps แต่ไม่จำกัดความเร็วต่ำสุด ถ้าต่อแล้วได้ความเร็วสูงกว่านี้หมุนใหม่


First created 11/28/1999